เมนู

ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สงฆ์สมมติอยู่บัดนิ้ ซึ่ง
วิหารมีชื่อนี้ ให้เป็นโรงอุโบสถ การสมมติวิหารมีชื่อนี้ให้เป็นโรง-
อุโบสถชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด
ท่านผู้นั้นพึงพูด.
วิหารมีชื่อนี้อันสงฆ์สมมติให้เป็นโรงอุโบสถแล้ว ชอบแก่
สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้.

กรรมวาจาสมมติโรงอุโบสถ จบ

เรื่องสมมติโรงอุโบสถ 2 แห่งในอาวาสเดียวกัน


[158] ก็โดยสมัยนั้นแล ในอาวาสแห่งหนึ่ง สงฆ์สมมติโรงอุโบสถ
2 แห่ง ภิกษุทั้งหลายประชุมกันในโรงอุโบสถทั้ง 2 ด้วยตั้งใจว่า สงฆ์จักทำ
อุโบสถที่นี้ สงฆ์จักทำอุโบสถ ณ ที่นี้ จึงพากันกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มี
พระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสห้ามแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลายในอาวาสแห่งหนึ่ง สงฆ์ไม่พึงสมมติโรงอุโบสถ 2 แห่ง รูปใดสมมติ
ต้องอาบัติทุกกฏ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ถอนโรงอุโบสถแห่งหนึ่งแล้วทำ
อุโบสถในโรงอุโบสถแห่งหนึ่ง.

วิธีถอนโรงอุโบสถ


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล พึงถอนโรงอุโบสถอย่างนี้.
ภิกษุแม้ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรม
วาจา ว่าดังนี้:-